ธนาคารแห่งประเทศไทยคงดอกเบี้ย "นิ่งจนกว่าภาวะเศรษฐกิจชัดเจน"
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี โดยให้เหตุผลว่าภาวะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงเปราะบางจากความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะความล่าช้าในการฟื้นตัวของภาคการบริโภคและการส่งออก
ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเงินเฟ้อที่แม้จะอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% แต่ยังมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันและต้นทุนอาหารที่ปรับเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากหลายสถาบันเชื่อว่า ธปท. จะยังคงท่าทีระมัดระวังตลอดครึ่งหลังของปี 2568 โดยเน้นรอข้อมูลเชิงลึกจากดัชนีเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งจากภาคการส่งออก การใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชน เพื่อประเมินจังหวะที่เหมาะสมในการปรับนโยบายการเงินในอนาคต ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจโดยเฉพาะภาคการผลิตและอสังหาริมทรัพย์ได้ออกมาแสดงความกังวลว่า การคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อเนื่องอาจส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยเสนอให้รัฐออกมาตรการคู่ขนานเพื่อบรรเทาผลกระทบ เช่น มาตรการภาษี หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย
กระแสข่าวเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่เริ่มลดดอกเบี้ยลงเล็กน้อยในไตรมาสที่แล้ว ก็ถูกนำมาเปรียบเทียบว่าอาจทำให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลต่อภาคการส่งออกซึ่งยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ธปท. ย้ำว่าคณะกรรมการจะประเมินสถานการณ์เป็นรอบ ๆ และพร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายหากเห็นสัญญาณการชะลอตัวที่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



